วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น
  
 
ข้อมูลทั่วไป
 
ขอนแก่น นอกจากจะเป็นดินแดนแห่งศิลปะ การทอผ้าไหมพื้นเมือง "ซิ่น มัดหมี่" ที่งดงามลือชื่อแล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยว ทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และแหล่งท่องเที่ยว ตามธรรมชาติ ที่น่าสนใจ หลายแห่ง รวมทั้ง เขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งเป็นเขื่อนพลังน้ำ แห่งแรกของแผ่นดินที่ราบสูงแห่งนี้
เขื่อนอุบลรัตน์ เปรียบประดุจประทีปดวงแรกที่จุดความสว่างไสว ให้กับพื้นแผ่นดินที่ราบสูง แห่งนี้ ให้ก้าวไปสู่ทิศทาง ของการพัฒนา ที่เจริญทัดเทียม กับภาคอื่นๆ ของประเทศ และนอกเหนือจาก ประโยชน์ นานัปการแล้ว ความสวยงาม ของเขื่อนอุบลรัตน์ และทะเลสาบกว้างใหญ่ ที่โอบล้อมด้วยขุนเขา เป็นเสน่ห์ดึงดูด นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ให้แวะเวียนมาเยี่ยมชม อย่างไม่ขาดสาย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ขอต้อนรับทุกท่านด้วยความยินดียิ่ง
 
การเดินทาง
 
การเดินทางไปชมเขื่อนไปได้ตามทางหลวงหมายเลข 2 (ขอนแก่น-อุดรธานี) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 470-471 ซึ่งห่างจากขอนแก่น 26 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าสู่เขื่อนอุบลรัตน์อีก 24 กิโลเมตร รวมระยะทาง ห่างจากตัวเมือง 50 กิโลเมตร
 
สิ่งอำนวยความสะดวก
 
เมื่อเดินทางถึงเขื่อนอุบลรัตน์ ท่านสามารถจะติดต่อสอบถามรายละเอียด เกี่ยวกับการเยี่ยมชมเขื่อน และสถานที่ต่างๆ ได้ที่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ณ อาคารที่ทำการ เขื่อนอุบลรัตน์ โทร. (๐๔๓) ๒๒๔๑๓๑ ต่อ ๒๖๖
หากประสงค์จะพักแรม ติดต่อได้ที่ หน่วยที่ทำการบ้านรับรอง เขื่อนอุบลรัตน์ โทร.(๐๔๓) ๒๒๔๑๓๑ ต่อ ๒๖๗ หรือติดต่อสำรองที่พัก ล่วงหน้าได้ที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย โทร. ๔๓๖-๓๑๗๙
 
ลักษณะเขื่อน
 
เขื่อนอุบลรัตน์ หรือ ชาวเมืองเรียกกันว่า "เขื่อนพองหนีบ" สร้างปิดกั้นแม่น้ำพอง ที่อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำแห่งแรก ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้สร้างขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นแห่งที่สองของประเทศไทย ที่ก่อสร้างเสร็จหลังเขื่อนภูมิพล
ตัวเขื่อน
เป็นเขื่อนหินถมแกนกลางเป็นดินเหนียว มีความยาว ๘๐๐ เมตร สูงจากพื้นท้องน้ำ ๓๒ เมตร ระดับสันเขื่อนอยู่ที่ ๑๘๕ เมตร (ระดับน้ำทะเลปานกลาง -รทก.) สันเขื่อนกว้าง ๖ เมตร ฐานเขื่อนกว้าง ๑๒๐ เมตร และที่ระดับเก็บกักปกติสูงสุด ๑๘๒ เมตร (รทก.) อ่างเก็บน้ำมีความจุทั้งหมด ๒,๕๕๙ ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละประมาณ ๑,๗๕๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ทางปีกขวาของตัวเขื่อนเป็นอาคารระบายน้ำล้น มีช่องระบายน้ำ ๔ ช่อง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สามารถระบายน้ำสูงสุดได้ วินาทีละ ๒,๕๐๐ ลูกบาศก์เมตร

สำหรับอาคารโรงไฟฟ้า ตั้งอยู่ทางปีกซ้าย ของตัวเขื่อน ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดกำลังผลิต ๘,๔๐๐ กิโลวัตต์ จำนวน ๓ เครื่อง รวมกำลังผลิตทั้งสิ้น ๒๕,๒๐๐ กิโลวัตต์
เขื่อนอุบลรัตน์ เริ่มงานก่อสร้างเมื่อปี ๒๕๐๗ และสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี ๒๕๐๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตน์ราชกัญญาฯ ไปทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนอุบลรัตน์ เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๐๙
ต่อมาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ทำการปรับปรุงเขื่อนอุบลรัตน์ โดยเสริมสันเขื่อนให้สูงขึ้นไปอีก ๓.๑๐ เมตร จากระดับเดิม ๑๘๕ เมตร (รทก.) เป็นที่ระดับ ๑๘๘.๑๐ เมตร (รทก.) ความกว้างสันเขื่อนเท่าเดิม ส่วนฐานเขื่อนด้านท้าย ขยายออกจากเดิม ซึ่งกว้าง ๑๒๐ เมตร เป็น ๑๒๕ เมตร ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปลายปี ๒๕๒๗ และปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยเมื่อต้นปี ๒๕๓๐
ประโยชน์หลังจากการปรับปรุง เขื่อนอุบลรัตน์ จะทำให้เขื่อนมีประสิทธิภาพในการบรรเทาอุทกภัยสูงขึ้น และยังเสริมความปลอดภัย ให้แก่ตัวเขื่อน ซึ่งจากการยกระดับ ของสันเขื่อน จะไม่มีผล ต่อระดับเก็บกักน้ำ ใช้เพื่อการชลประทาน และผลิตกระแสไฟฟ้าในระดับปกติ ทั้งยังไม่มีผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่อาศัย บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำอีกด้วย
 
ประโยชน์
 
เขื่อนอุบลรัตน์ เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ ที่เอื้ออำนวยประโยชน์ ต่อประชาชน ในด้านต่างๆ ดังนี้
ด้านผลิตไฟฟ้า สามารถผลิตไฟฟ้าได้ปีละ ๖๕ ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง
ด้านชลประทาน และการเกษตร น้ำที่ปล่อยผ่านการผลิตไฟฟ้าแล้ว จะส่งเข้าสู่ระบบ ชลประทาน ให้ประโยชน์ แก่พื้นที่เกษตรกรรม ที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดมหาสารคาม จำนวน ๓๐๐,๐๐๐ ไร่ ซึ่งสามารถจะเพาะปลูกได้ถึงปีละ ๒ ครั้ง อีกทั้งยัง ปลูกพืชในฤดูแล้งได้ด้วย
ด้านการประมง อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ปัจจุบันเป็นแหล่งประมงขนาดใหญ่ ที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ ทำรายได้ให้แก่ประชาชนในภูมิภาค นี้ในปีหนึ่งๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วยยกระดับมาตรฐานการครองชีพ ของประชาชน ให้สูงขึ้น
ด้านการบรรเทาอุทกภัย ตามปกติก่อนการสร้างเขื่อนน้ำ มักจะท่วมอย่างกะทันหันในฤดูฝน บริเวณแนวฝั่งลำน้ำพอง จนถึงแม่น้ำชี ทำความเสียหายให้แก่เรือกสวนไร่นา ของประชาชนมาก แต่ภายหลังก่อสร้างเขื่อนอุบลรัตน์แล้ว ได้ช่วยบรรเทาภาวะน้ำท่วม ให้ลดน้อยลง
ด้านคมนาคม เขื่อนอุบลรัตน์ ยังเป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำที่สำคัญ ซึ่งประชาชนใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาหาสู่กัน อย่างสะดวก และช่วยย่นระยะทาง ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน ทั่วไป
 
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
 
ก่อนเดินทางเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ ท่านสามารถจะแวะชม สถานที่ท่องเที่ยวตามรายทางที่น่าสนใจ ซึ่งมีทั้งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ หลายแห่ง อาทิ พระธาตุขามแก่น วัดพระบาทภูพานคำ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติขอนแก่น บึงแก่นนคร อุทยานแห่งชาตภูเก้า - ภูพานคำ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตลาดท่าปลาเขื่อนอุบลรัตน์ และอำเภอชนบท ซึ่งมีการทอไหมพื้นเมือง "ซิ่น มัดหมี่" ที่มีชื่อเสียงมาก
พระธาตุขามแก่น
เป็นโบราณสถานเก่าแก่ คู่บ้านคู่เมือง ของจังหวัดขอนแก่น ลักษณะเป็นเจดีย์ ที่สร้างครอบแก่นมะขาม ที่ตายแล้ว แต่กลับแตกกิ่งก้าน ขึ้นมาใหม่ ประมาณว่า สร้างขึ้นพร้อมกับ พระธาตุศรีสองรัก อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ จะมีงานฉลองทุกปี (ปัจจุบันนี้ จังหวัดขอนแก่น ได้อัญเชิญ พระธาตุขามแก่น มาเป็นตราสัญลักษณ์ขอจังหวัด)

วัดพระบาทภูพานคำ
ตั้งอยู่บนไหล่เขาภูพานคำ ติดกับเขื่อนอุบลรัตน์ มีพระพุทธรูป (หลวงพ่อพระใหญ่) สูงประมาณ ๑๔ เมตร ซึ่งประดิษฐาน อยู่บนยอดเขา "ภูพานคำ" มีบันไดนาคขึ้นไปหาองค์พระสูง ๑,๐๔๙ ขั้น นับว่าเป็นปูชนียสถาน - ปูชนียวัตถุ ที่สวยงาม ผู้ที่มาเที่ยว เขื่อนอุบลรัตน์ มักจะแวะนมัสการ เพื่อเป็นสิริมงคล

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติขอนแก่น
เป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นแหล่งรวมโบราณวัตถุ ล้ำค่า ที่ขุดได้จาก หน่วยศิลปกรที่ ๗ นำมาตั้งแสดงให้ชม เช่น โบราณวัตถุที่บ้านเชียง ใบเสมา จำหลัก จากเมืองฟ้าแดดสูงยาง จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นต้น

บึงแก่นนคร
เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ย่านชุมชน ในเมือง ทำให้เกิดความสง่างาม ประดับตัวเมือง และเป็นแหล่งสนับสนุนกิจการ ท่องเที่ยว ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ
เป็นสถานที่ เพิ่งได้รับการสถาปนา ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ อยู่ห่างจากเขื่อนอุบลรัตน์เพียง ๕ กิโลเมตร บรรยากาศ ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ มีทั้งชายเขาสูงชัน และเรียบริมฝั่ง อ่างเก็บน้ำ เขื่อนอุบลรัตน์ เหมาะสำหรับ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ

มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เป็นมหาวิทยาลัย ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ในพื้นที่อันกว้างขวาง กว่า ๕,๐๐๐ ไร่ อยู่ห่างจาก ตัวเมืองขอนแก่น ๔ กิโลเมตร

ตลาดท่าปลาเขื่อนอุบลรัตน์
จากสันเขื่อนเรียบไปตามไหล่เขา ภูพานคำ ทางปีกขวา ของอ่างเก็บน้ำ เขื่อนอุบลรัตน์ ประมาณ ๕ กิโลเมตร ตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. จะมีชาวประมงจับปลา จากอ่างเก็บน้ำ แล่นเรือเข้าเที่ยวฝั่ง เพื่อนำปลามาจำหน่าย

อำเภอชนบท
แยกจากทางหลวงหมายเลข ๒ ตรงหลักกิโลเมตรที่ ๓๙๙ ตรงข้ามกับอำเภอบ้านไผ่ เข้าไปอีก ๑๑ กิโลเมตร มีการทอผ้าไหมพื้นเมือง "ซิ่น มัดหมี่" ผ้าไหมอำเภอชนบท มีชื่อเสียงมาก นักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่าน มักจะแวะเข้าไปชม และซื้อกันอยู่เสมอ

วิธีจีบสาวในที่ทำงาน จีบผู้หญิงในที่ทำงาน จีบเพื่อนร่วมงงาน


วิธีจีบสาวในที่ทำงาน จีบผู้หญิงในที่ทำงาน หากคุณกำลังสนใจสาวในที่ทำงาน เพราะเธอช่างน่ารัก ถูกใจ คงจะเหมาะมาก ถ้าได้เป็นแฟนกัน จะจีบเธอ ก็อาจจะจีบไม่ติด แต่นั่นไม่เป็นไร ยังไม่ใช่เรื่องที่จะต้องกังวล อย่างแรกที่ต้องทำ คือ เตรียมพร้อมและลงมือทำ จีบไม่ติดก็ไม่เป็นไร เพราะถ้าคุรไม่หล่อเหลาลากดินอยู่แล้วก็คงไม่มีใครมาสนใจคุณ ถึงเวลานำเสนอตัวเองแล้ว ลุยๆๆๆๆๆ ทำตาม วิธีจีบสาวในที่ทำงาน จีบผู้หญิงในที่ทำงาน ได้เลย
1. วิธีจีบสาวในที่ทำงาน จีบผู้หญิงในที่ทำงาน อย่างแรก คุณต้อง ตั้งใจทำงานก่อน การพัฒนาตัวเองก่อน ให้ดูดี และมีศักยภาพ ที่คู่ควรกับเธอ เริ่มได้จาก ความรับผิดชอบในงานที่คุณทำ ไม่ควรปล่อยให้เรื่องจีบสาว มารบกวนจิตใจมากเกินไปนัก แต่ใช้เวลาไปกับการทำงาน ให้ลุล่วงก่อน เวลาในการจีบเธอ ควรเป็นช่วงพักรับประทานอาหารกลางวัน หรือหลังเลิกงาน ในตอนเย็น เมื่อมีสมาธิ จัดการเรื่องงานของตัวเองได้ เรียบร้อย เรื่องการจีบ ก็จะสามารถจัดเวลาได้อย่างเหมาะสม ไม่มารบกวน ระหว่างกันมากนัก จำเอาไว้ ไม่มีใครได้สิ่งทีไม่คู่ควรกับตัวเองมา ทำตัวเองให้คู่ควรกับเธอ แล้วเธอจะคู่ควรกับคุณ
2. วิธีจีบสาวในที่ทำงาน จีบผู้หญิงในที่ทำงาน อย่างที่สอง คุณต้อง คุยเรื่องงานกับเธอบ้าง เริ่มเปิดบทสนทนา ด้วยเรื่องที่จะสามารถพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ คุยเรื่องงาน อาจจะพบว่า มีอะไรที่สามารถ ช่วยเหลือกันได้ เช่นเทคนิคในการใช้โปรแกรม หรือไอเดียดีๆ เกี่ยวกับการทำงาน ที่คุณอยากนำเสนอ พอเริ่มคุ้นเคย เธอสะดวกที่จะสนทนากับคุณก็ไปคุยเรื่องที่เป็นส่วนตัวได้ บ้านอยู่แถวไหน ชอบทำอะไร รักษาความเป็นมิตรไว้ แต่ถ้าวันไหน ไม่มีเรื่องคุย ยิ้มให้เธอ ก็พอแล้ว จำเอาไว้ ไม่มีใครชอบความเครียด ชอบความไม่เป็นมิตร ถ้าคุณคุยสนุก ไม่เครียด เธอก็จะอยากคุยกับคุณ
3. วิธีจีบสาวในที่ทำงาน จีบผู้หญิงในที่ทำงาน อย่างที่สาม คุณต้อง เตรียมใจมุ่งมั่น ที่จะจีบให้ติด! ก่อนไปทำงานทุกเช้า ก่อนออกไปทำงาน ทุกวันในตอนเช้า ให้กำลังใจตัวเองว่า ต้องจีบเธอให้ได้! พร้อมยิ้มให้กับตัวเอง ในกระจก จะได้เป็นการช่วยเตือนตัวเอง ให้อย่างน้อย ก็ได้ทำอะไร ที่เข้าข่าย ในการจีบเธอ ในวันนั้นๆ บ้าง หยอดวันละนิด วันละหน่อย ให้เธอรู้สึกดีๆ ซึ่งคุณเองก็จะรู้สึกดี ด้วยเช่นกัน ที่ได้ทำอะไรสนุกๆ ในแต่ละวัน… ถ้าวันไหนรู้สึกว่า หมดกำลังใจ ให้กำลังใจตัวเองสักหน่อยว่า เราทำได้ ! มุ่งๆ มันเข้าไว้ บอกตัวเองว่าคุรทำได้ บอกตัวเองว่าคุณจะสู้
4. วิธีจีบสาวในที่ทำงาน จีบผู้หญิงในที่ทำงาน อย่างที่สี่ คุณต้อง เริ่มแสดงออกให้เธอรู้ ว่าคุณตั้งใจจีบเธอจริงๆ ขอเบอร์! ถ้าเธอให้ก็โทรไปเมาท์กับเธอ ถ้าเธอไม่ให้ก็รอดูสถานการณ์ต่อไป เพราะเธอเองก็มีเหตุผล ของเธอ รอไปก่อน ค่อยขอเบอร์โทรเธออีกครั้ง 2 -3 วันให้หลัง 1 อาทิตย์ให้หลัง แล้วแต่จะพิจารณา หรือใช้วิธีอื่นๆ เช่น รอเธอหลังเลิกงาน เดินคุยกัน ชวนเธอ ไปชมงานศิลปะ ที่ แกลอรี่ศิลปะ ชวนไปนั่งรถราง รับประทานอาหารอร่อยๆ แถวเยาวราช จังหวะ นี้ ถ้าเธอไว้ใจ ยอมไปเที่ยวกับคุณบ้าง การชวนเธอไปเที่ยว ด้วยกัน ต้องกระชับ เข้าใจง่าย เป็นสถานที่ ที่น่าสนใจ และต้องปลอดภัย ไม่มีใครชอบความกดดัน ไม่มีใครชอบการตื้อ อย่าไปเชื่อคำพูดที่ว่า ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก วิธีแบบนั้นใช้ได้ไม่ทุกกรณี ซึงคุณไม่มีทางเลือกในชีวิตขนาดนั้นหรอก
5. วิธีจีบสาวในที่ทำงาน จีบผู้หญิงในที่ทำงาน อย่างที่ห้า คุณต้อง ประพฤติตัวให้ดี อย่างสม่ำเสมอ เอาล่ะ! ถ้าผ่านช่วงเริ่มต้น ที่เป็นเพื่อน ที่ค่อนข้างสนิทสนมกันแล้ว ก็รักษาคุณภาพข้อ 1 ถึง ข้อ 4 เอาไว้ให้ได้ อาจจะยากหน่อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยาก จนเกินกำลัง จีบต่อไป ให้ติด! และพาเธอ ออกหน้าออกตา ออกสังคม แนะนำให้เพื่อนรู้จัก และก็แนะนำ ให้คนในครอบครัวของคุณ รู้จักเธอต่อไป

เทคนิคการจีบผู้ชาย


4 วิธี " จีบผู้ชาย "
4 วิธีแรก " จีบผู้ชาย " ในออฟฟิต

จีบ ผู้ชาย สาวน้อยสาวใหญ่หลายคนคงบอกว่าไม่กล้าหรือเพราะความเชื่อตั้งแต่สมัยคุณปู่ คุณย่าคุณยายสอนมาว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมสำหรับหญิงไทยใจงามอย่างเรา ๆ แต่คงจะดูสายไปซะแล้วค่ะกับยุคสมัยนี้ที่ผู้ชายเหลือน้อยและใกล้สูญพันธุ์ อย่างนี้ และยิ่งเป็นผู้ชายที่เป็นชายแท้หน้าตาดี นิสัยดี+รวยเข้าไปด้วยก็ อุ๊บ! ... กลับมาแจ้งข่าวคนเขียนทีเพราะรู้สึกจะหายากมาก ๆ แล้วในสมัยนี้ เมื่อเห็นดังนี้สาว ๆ อย่างเราคงจะนั่งอยู่เฉยไม่ได้แล้วจริงไหมค่ะ อาจจะต้องงัดทิปเด็ด เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ มาใช้งานบ้างไม่งั้นคงได้ขึ้นคานกันยกใหญ่ ดังนั้นบทความในวันนี้เลยขอนำเสนอ 8 วิธีจีบผู้ชาย มัดใจด้วยเทคนิคเร่งรัด




วิธีจีบผู้ชาย 1 : ตรวจสอบเงื่อนไขสำคัญ

สิ่งนี้สำหรับผู้หญิงอย่างเรานั้นถือว่าจำเป็นมาก ๆ เลยคือตรวจสอบก่อว่าเขา ผู้ชายคนนั้นที่เราหมายปองมีคนสำคัญแล้วรึยัง ถ้ามีแล้วจะจีบต่อ หรือ ว่าถอย อันนี้ก็ต้องแล้วแต่จิตใจของเราแล้วค่ะ แต่ถ้าเป็นไปได้เขามีความสุขดีอยู่แล้วก็ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ แต่ถ้าแค่มีผู้หญิงมาเกาะเกะอันนี้ยังพออนุโลมได้ แต่ถ้าโสดสนิทก็เตรียมตัวไปข้อสองแล้ววิ่งเข้าใส่ได้เลยค่ะ แต่จู่ ๆ จะให้ผู้หญิงอย่างเราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครโสดหรือไม่โสดวิธีดูก็ง่าย ๆ เลย ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนเราอันนี้ไม่ยากค่ะเพราะคงต้องรู้อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเพื่อนของเพื่อนก็ถามเพื่อนสิค่ะง่ายจะตาย แต่ถ้าเป็นเพื่อนที่ทำงานละ อันนี้อาจจะต้องใช้เทคนิคนิดหนึ่งถ้าเขาเล่น hi5 facebook ละก็ลุยตรวจเลย แต่สำคัญมาก ๆ กว่านั้นคือต้องใจเย็น ๆ ค่ะ ในกรณีที่ผู้ชายคนนั้นยังโสดสนิทอยู่ แต่ถ้าเขาอยู่ในช่วงฮ๊อตสาว ๆ ลุมล้อมนิต้องทำใจเข้าไปวัดดวงเอาค่ะ สำหรับการตรวจสอบขั้นต่อไปก็คือ ไปบ้านเลยค๊าาาา แต่ต้องเช็คดูนิดหนึ่งค่ะว่าปลอดภัยรึเปล่า T - T ( เกิดเป็นหญิงนิก็ลำบากจริง ๆ เลยนะค่ะ ) เหตุที่ต้องไปบ้านเพราะการที่เราได้เจอผู้ใหญ่ในบ้านก็เหมือนการไปเปิดตัว อันนี้ก็วัดใจกันเลยค่ะว่าจะเป็นอะไร เพื่อน - แฟน แต่ถึงเป็นแค่เพื่อน ถ้าเราไปเก็บคะแนนกับคุณแม่หรือคุณพ่อได้ดีโอกาสก็ใกล้เขามาอีกนิดจริงไหม ค่ะ แต่ถ้าโชคดีใจตรงกันก็อาจจะได้เป็นแฟนเลยก็ได้ค่ะ ^ ^a แต่อย่าลืมชวนคุณพ่อคุณแม่คุยแล้วถ้าว่าเขามีแฟนหรือยังนะค่ะ แต่ต้องให้เนียบ ๆ นะค่ะ ไม่งั้นไก่ตื่นหมด


วิธีจีบผู้ชาย 2 : บอกเขาแบบเป็นใน ๆ แต่เปิดเผย

สมัยนี้ปี 2009 จะ 2010 แล้วแต่เชื่อเถอะค่ะว่ามุขเดิมแต่ทันสมัยยังใช่ได้อยู่เสมอกับการเอาขนมไป ให้ แต่เดี่ยวก่อนถ้าคุณเป็นคนหน้าบางละก็การแจกขนมทั้งออฟฟิตต้องไม่ใช่วิธีที่ ดีแน่ ๆ หรือ การซื้อขนมแล้วเอามาให้ในกลุ่มเพื่อน ๆ อันนี้เหมือนไม่ได้บอกเขาเลยว่าเราอะมีใจอยู่นะ ดังนั้นวิธีนี้ถ้าไม่ต้องการให้ใครรู้ลองหาโอกาสอยู่กันสองต่อสองแล้วลองบอก เขาว่า เราป้อนขนมให้เอาไหม วิธีนี้ใช้ได้ดีในกรณีต้องการสื่อว่าเรามีใจให้เขานะ หลังจากพูดไปแล้วลองเช็คปฏิกิริยาดูว่าตอบสนองอย่างไร โดยวิธีนี้สื่อได้หลายอย่างให้ดูทางสีหน้าและอาการ ส่วนการกินขนมหรือไม่กินไม่ใช่ประเด่นหลักนะค่ะ แต่สีหน้าต่างหากที่สำคัญคงไม่ยากเกินไปใช่ไหมค่ะกับการเช็คสีหน้าผู้ชาย อิอิ และข้อดีของวิธีนี้คือ ไม่ต้องเปิดเผยเพื่อนหรือคนทั้งออฟฟิต เพราะการให้ขนมแบบเดิมนิอย่างไรก็ต้องรู้ แต่การป้อนขนมนั้นขึ้นอยู่กับช่วงเวลามากกว่าค่ะ แต่วิธีนี้จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อเราทำการสื่อว่าเราชอบโดยทางอื่น ๆ ก่อนอยู่แล้วนะค่ะ แต่วิธีนี้เหมือนการเปิดเผยในอีกขั้นว่าเราชอบเขา
วิธีจีบผู้ชาย 3 : จะจีบเขาต้องเข้าทางเพื่อน

เชื่อรึเปล่าค่ะ เพื่อนนั้นมักจะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ของเราไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะเรื่องคนสำคัญด้วยแล้ว การที่เราจะจีบผู้ชายซักคนถ้าเราสามารถตีซี้หรือตีสนิทกับเพื่อนของเขาได้ละ ก็จะเป็นเสมือนทางลัดที่จะไปช่วยเป่าหูความดีและความน่ารักของเรา ให้ผู้ชายที่เป็นเป้าหมายชอบเราได้ไม่ยากเลย น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนภาษาอะไรกับผู้ชายค่ะ ถ้าเราได้เพื่อนเขามาเป่าหูหรือแซวบอกให้มาชอบเราเนี่ยนะอย่างน้อยที่สุุดก็ ต้องมีแอบมองกันบ้างละค่ะ อิอิ


วิธีจีบผู้ชาย 4 : ยิ้มกินใจ กับคำพูดจริงใจ

ถ้าวิธีที่ 1-3 ยังไม่สำเร็จแล้วละก็ต้องลองไม้ตายดูเลยค่ะ ยิ้มค่ะ ยิ้มเอาไว้ ยิ้มอย่างจิงใจ ยิ้มให้เขาเห็นในโอกาสที่เหมาะสมทุก ๆ โอกาสและหาช่วงเวลาดี ๆ บอกความในใจของเราให้รู้เพราะถ้าวิธีที่ 1-3 ไม่ได้ผลแสดงว่าต้องมีอะไรผิดปกติแล้วค่ะ แต่การพูดคำพูดจริงใจหรือบอกชอบเขานั้นต้องพูดเมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะ สมและสถานที่เหมาะสมจริง ๆ และในช่วงเวลาที่เราจะพูดนั้นสิ่งสำคัญที่ห้ามลืมเลยคือรอยยิ้มค่ะ จะเป็นจะตายยิ้มไว้ก่อน (ก่อนไปพูดแนะนำทำใจไว้ 50% สำหรับความผิดหวังนะค่ะ )

เกาะพีพี





เกาะพีพี : คือ ส่วนหนึ่งในตำบลอ่าวนาง จ.กระบี่ บนฝั่งทะเลอันดามัน เกาะพีพีรับอิทธิพลลมมรสุมตะวันตก ในเดือน พ.ค. ถึง พ.ย. ทุกปี ช่วงเวลาดังกล่าวจึงไม่สะดวกนักหากเราจะเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะพีพี แต่หากวันใดไม่มีคลื่นลมแรง เราก็สามารถเดินทางไปเกาะพีพีได้ตลอด เรือโดยสารส่วนใหญ่เป็นเรือขนาดความจุ 200 ที่นั่งขึ้นไปค่อนข้างปลอดภัยในการเดินทางไปเกาะพีพี

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากภูเก็ต หรือกระบี่ ไปเกาะพีพีก็ได้ ระยะทางและเวลาที่ใช้ในการเดินทางไปเกาะพีพีพอๆ กัน เกาะพีพี อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ รวมเอา เกาะพีพีดอน พีพีเล เกาะยูง เกาะไผ่ เกาะเล็กเกาะน้อย และหาดนพรัตน์ธาราเอง เกาะพีพีมีการทำการท่องเที่ยวโดยภาคเอกชนจำนวนมากมานับเป็นเวลาหลายสิบปี เอกชนหลายรายดำเนินการมาก่อนการประกาศเขตพื้นที่ของอุทยานฯ ทางราชการจึงมีการจัดพื้นที่แบบพิเศษ คือให้เกาะพีพีดอนจัดเป็นพื้นที่ทำการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจอย่างเข็มข้น ยอมให้มีที่พักของเอกชน และร้านค้าต่างๆ ได้เป็นจำนวนมาก และเกาะพีพีเล ก็ให้ทำการท่องเที่ยวได้อย่างกว้างขวางยกเว้นไม่ให้มีการจัดการจัดสร้างที่พักร้านอาหาร ส่วนเกาะยุง และเกาะไม้ไผ่มีการทำการท่องเที่ยวในรูปแบบอนุรักษ์ดำเนินการโดยอุทยานฯ และเกาะคู่หรือเกาะบิตะ เป็นแหล่งดำน้ำลึกแบบ SCUBA

เกาะเสม็ด



          "เกาะเสม็ด" สถานที่ยอดฮิตพิชิตความร้อนของเมืองระยองฮินั่นเอง  เสน่ห์มัดใจของที่นี่ นอกจากจะมีชายหาดขาวสะอาด น้ำทะเลเย็นใสน่าสัมผัสแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกทั้งยามกลางวันและค่ำคืน ที่สำคัญการเดินทางไปก็ไม่ยากนัก เพราะอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ เท่าไรด้วยนะ

          นอกจากนี้ ภายในเกาะเสม็ด ยังประกอบไปด้วยชายหาดและอ่าวต่างๆ ที่เรียงรายยาวสุดลูกลูกตา ที่นักท่องเที่ยวต่างการันตีว่าถ้าไปถึงแล้วแทบจะไม่อยากกลับเลยทีเดียว

           หาดทรายแก้ว  ชายหาดชื่อคุ้นหู สำหรับนักท่องเที่ยว ที่หลงใหลในความเฮฮาปาร์ตี้  เรียกว่าเป็นหาดที่ไม่เคยหลับ เพราะมีกิจกรรมร้อยแปดให้เลือกสรร เริ่มอุ่นเครื่องในช่วงเช้าด้วยการเล่นน้ำทะเล ต่อด้วยนอนเอกเขนกรับแสงแดดในช่วงกลางวัน จากนั้นมานั่งเล่นยามเย็นชมพระอาทิตย์ตก พอค่ำหน่อยก็ดริ๊งค์แอนด์แดนซ์ใต้แสงจันทร์  โอ๊ย! มันส์หยดติ๋งจนลืมเวลากลับเลยล่ะคะ

           อ่าววงเดือน คึกคักไม่แพ้ หาดทรายแก้ว เพียงแต่อ่าวนี้ยังพอมีมุมสงบ ให้ผู้ที่มีโลกส่วนตัวสูงปลีกวิเวกไปทางด้านหัวอ่าวได้ ส่วนชาวแก๊งค์ที่รักความสนุกสนาน ไปรวมตัวกันที่กลางอ่าวได้เลย

           หาดคลองพร้าว ลักษณะหาดกว้างเป็นครึ่งวงกลม เหมาะสำหรับนั่งชมพระอาทิตย์ตก และที่สำคัญบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับผู้คนที่อยากหลบหนีความวุ่นวายดีนัก  ส่วนชายหาดที่นี่จะกว้างมากชวนเพื่อนฝูงเล่นกีฬาริมหาดได้สบาย

           อ่าวช่อ/อ่าวทานตะวัน อ่าวช่อ และอ่าวทานตะวัน มีโค้งอ่าวที่ติดต่อกัน ทั้ง 2 อ่าวเหมาะที่จะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ อย่างแท้จริง ผู้คนไม่พลุกพล่าน หาดทรายขาว และสวยงาม ลงตัวดีกับวันพักผ่อนของคุณ

           อ่าวทับทิม เป็นอ่าวเล็กๆ ที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนนอนฟังเสียงคลื่นเป็นที่สุด

           อ่าวแสงเทียน เป็นอ่าวที่รักษาความเป็นธรรมชาติไว้ได้มากที่สุด  ฉะนั้นถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยว ประเภทกินลมชมวิว นอนนับดาวแล้วละก็ อ่าวแสงเทียน เป็นอีกอ่าวหนึ่ง ที่คุณไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

           อ่าวหวาย อ่าวหวายค่อนข้างไกลจากหัวเกาะ  เรียกว่ายังคงความสวยงามในแบบธรรมชาติได้เป็นอย่างดี นักท่องเที่ยวที่รักสงบ และต้องการความเป็นส่วนตัวม๊ากมาก ต้องมาที่อ่าวหวายเท่านั้นค่ะ
 
           อ่าวกิ่วหน้านอก พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างแท้จริง เพียงคุณชอบสัมผัสหาดทรายขาวละเอียด ไม่ต้องเบียดเสียดผู้คน พร้อมนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่สำคัญใช้เวลาเดินไม่นาน ระยะทางประมาณ 100 เมตรก็จะถึงจุดชมวิว ที่อ่าวกิ่วหน้าใน ที่นี่ถือเป็นแหล่งดื่มกินบรรยากาศที่ดีทีเดียว

           อ่าวกะรัง เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำ และชมประการังได้  และยิ่งในช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค.(ปะการัง แค้มปิ้ง) คุณจะได้พบกับนักตกปลามากหน้าหลายตา เพราะพวกเขาแห่กันมาชมปลาอินทรีย์ที่เยอะที่สุด

           อ่าวน้อยหน่า ถึงแม้อยู่ใกล้กับหาดทรายแก้ว แต่บรรยากาศนั้นต่างกันสุดขั้ว (ประมาณว่าอยู่ป่ากับรัชดาซ.4..หุหุ) เรียกว่าใครที่ชอบความเงียบสงบ รักการอ่าน อยากอาบแสงแดดเคล้าน้ำทะเล บริเวณนี้มีพร้อมสรรพรอเพียงคุณหิ้วกระเป๋ามาเท่านั้น

           อ่าวลูกโยน เป็นอีกหนึ่งอ่าวของเหล่าพลพรรครักสงบ เพราะที่นั่นผู้คนไม่พลุกพล่าน  บรรยากาศแถบนั้นก็ชิลล์สุดๆ ถ้าคุณชอบความเงียบสงัดล่ะก็ อ่าวลูกโยนเค้าจัด...ด...ดให้

           อ่าวไผ่ อยู่ใกล้ชิดติดกับหาดทรายแก้ว มีเพียงโขดหินบางๆ คั่นอยู่ นักท่องเที่ยวส่วนมาก จะเหมาเดินเที่ยวหาดทรายแก้ว ไล่ไปจนถึง อ่าวไผ่ ในบริเวณโขดหิน มีวิวสวยงาม เหมาะกับการอาบแดด ถ่ายรูป ฯลฯ มีข้อแนะนำนิดนึงสำหรับผู้ที่ลงเล่นน้ำ ห้ามย่างกรายไปบริเวณที่มีธงสีแดงปักอยู่เป็นอันขาด เพราะตรงนั้นเป็นจุดน้ำวนค่ะ

           อ่าวนวล เป็นอ่าวเล็ก ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความสมถะ เรียบง่าย เพราะที่นี่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก 

           อ่าวขาม เป็นอ่าวหิน ที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเข้ามา นอกจากจะนั่งเรือผ่านมาขึ้นทางอ่าวพร้าว ลักษณะภูมิประเทศ ของอ่าวขาม คล้ายๆ กับแหลมเรือแตก


การเดินทาง
ผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัว มีหลายเส้นทางให้เลือกดังนี้

         
- เส้นทางแรก ทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) จากกรุงเทพฯ ผ่านอำเภอบางปู อำเภอบางปะกง จังหวัดชลบุรี บางแสน ศรีราชา พัทยา หาดจอมเทียน สัตหีบ อำเภอบ้านฉาง ไปจนถึงอำเภอเมือง จังหวัดระยอง รวมระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร

          - เส้นทางที่ 2 ทางหลวงหมายเลข 34 (ถนนบางนา-ตราด) เริ่มจากตรงจุดสิ้นสุดทางด่วนด่านเฉลิมนคร อำเภอบางนา ผ่านอำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ และเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 3 ที่กิโลเมตรที่ 70 อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา หลังจากนั้นก็จะผ่านเส้นทางเดียวกันกับเส้นทางที่ 1 รวมระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร

          - เส้นทางที่ 3 ทางหลวงหมายเลข 36 (บายพาส 36) จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ 2 จนถึงกิโลเมตรที่ 140 อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทางหลวงหมายเลข 36 จากนั้นให้เดินทางต่อไปยังจังหวัดระยองด้วยระยะทาง 70 กิโลเมตร รวมระยะทางประมาณ 210 กิโลเมตร

          - เส้นทางที่ 5 ทางหลวงหมายเลข 7 (สายมอเตอร์เวย์) เริ่มจากถนนพัฒนาการ เขตประเวศ กรุงเทพฯ ไปสิ้นสุดที่ จังหวัดชลบุรี ระยะทาง 75 กิโลเมตร จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 36 เป็นระยะทาง 100 กิโลเมตร จนถึงอำเภอเมือง จังหวัดระยอง รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 175 กิโลเมตร

          และผู้ที่ใช้บริการรถสาธารณะ มีรถโดยสารประจำทางจากสถานีขนส่งสายตะวันออก (เอกมัย) ไปยังตัวจังหวัดระยอง และอำเภอต่างๆ ในจังหวัดหลายเส้นทาง ได้แก่

          - สายกรุงเทพฯ - ระยอง, บ้านเพ, แกลง, แหลมแม่พิมพ์, มาบตาพุด, ประแสร์ เป็นต้น

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0  2391 2504

          - สถานีเดินรถโดยสาร จังหวัดระยอง โทร.  0 3861 137 9

          การเดินทางไปเกาะ จะมีเรือจากท่าเรือบ้านเพ บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ค่าโดยสารระหว่างบ้านเพ-เกาะเสม็ด (ไป-กลับ 100 บาท/ท่าน) ใช้เวลาเดินเรือประมาณ 40 นาที ส่วนเรือ speed boat อยู่ที่คนละ  250 บาทหรือเหมาลำประมาณ 1,500 - 2,600 บาท
          การเดินทางบนเกาะ มีถนนเพียงสายเดียว เป็นทั้งถนนคอนกรีตและถนนดิน และบนเกาะก็มีรถสองแถว(TAXI) บริการไปตามหาดต่าง ๆ ค่ารถประมาณ 10-500 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง หากต้องการจะเหมาเที่ยวทั้งเกาะราคาประมาณ 800 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยและสนใจมอเตอร์ไซต์เช่า ราคาเริ่มต้นที่ 300 บาท


แหล่งข้อมูล:http://hilight.kapook.com/view/9945