วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

10 ผลไม้ทำให้อ้วนได้

ผลไม้กินแล้วดี มีประโยชน์เหลือหลาย

แต่บางครั้งเราก็ต้องเลือกกินและกินในปริมาณที่พอดีบ้าง เพราะมีผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งทำให้สาวๆ กินแล้วอ้วนได้ เอ้า!! แล้วผลไม้อะไรที่กินแล้วอ้วนบ้างหนอ... เราก็มีอันดับของผลไม้ที่สาวๆ ควรระลึกไว้ว่าอันไหน "กินแล้วอ้วนสุดสุด"



ผลไม้ชนิดแรกที่กินแล้วอ้วนสุดสุด คือ


1. กล้วยไข่


2. กล้วยน้ำว้า




3. ขนุน



4. กล้วยหอม



5. มะม่วงน้ำดอกไม้สุก



6. ลำไยกะโหลกเขียว




7. ลองกอง



8. เงาะ



9. ลางสาด



10.




ทุเรียน ก็เป็นผลไม้ ที่ขึ้นชื่อว่ามีน้ำตาลสูงมากๆ ใครที่กินแล้วละก็...รับรองได้ชัวร์ว่าอ้วนแน่!!!




ส่วนผลไม้ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนได้แก่ แอปเปิ้ล ชมพู่ ฝรั่ง มะม่วงดิบ มะละกอ และ แตงโม

เหตุผลดี ๆ ของการกินผลไม้

เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมถ้าอยากกินผิวสวยใส สุขภาพดีจะต้องกินผลไม้ ถ้าคุณยังคิดไม่ออก งั้นลองมาอ่านข้างล่างนี้กันดูดีมั้ย เผื่อจะช่วยให้คุณถึงบางอ้อได้เร็วขึ้น

1. 80% ของผลไม้คือน้ำ

คิดไม่ถึงละสิว่า ผลไม้จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ถึง 80% ซึ่งนับว่าเป็นสัดส่วนพอ ๆกันน้ำในร่างกายของเราทีเดียวล่ะ อีกทั้งอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบเยอะ ๆ จะถูกย่อยได้ง่ายกว่าอาหารที่มาจากเนื้อสัตว์ซะอีก

อย่างเช่นถ้าคุณกินสเต็กร่างกายจะใช้เวลาย่อยนานประมาณ 8-10 ชั่วโมง





ในขณะที่ฟรุตสลัดใช้แค่ 30 นาที ก็เพียงพอแล้วค่ะนอกจากนี้ การกินผลไม้ยังช่วยให้ร่างกายนำสารอาหารต่าง ๆ ไปใช้ได้เร็วขึ้น ทำให้ร่างกายนำพลังงานไปใช้ได้เร็วกว่าการย่อยอีก


2. โลว์แฟต

ผลไม้จะประกอบด้วยคาร์โบไฮเตรต และ อาจมีโปรตีนบ้างเล็กน้อย แต่ที่แน่ ๆ จะมีไขมัน น้อยมาก ๆ หรือแทบไม่มีเลย (ยกเว้นอะโวคาโดซึ่งมีไขมันอยู่ถึง 31 กรัมเชียวค่ะ) ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่มาจากเนื้อสัตว์และนมมักจะมีไขม กันอยู่ในปริมาณที่มากกว่า
นอกจากนี้ ในผลไม้ยังมีไฟเบอร์ซึ่งช่วยให้ท้องอิ่ม ป้องกันความดันเลือดสูง และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ต่อการเป็นโรคหัวใจ หากสาว ๆ คนไหนอยากมีสุขภาพดีพร้อมกับหุ่นผอมเพรียวแล้วละก็ ขอแนะนำให้กินผลไม้เพื่อให้ได้ไฟเบอร์อย่างน้อยวันละ 25 – 30 กรัม

3. กระตุ้นความจำ

ผลไม้โดยเฉพาะแครอท นับว่าเป็นแหล่งพลังงานที่ดีสำหรับสมองทีเดียวล่ะ ทั้งนี้ก็เพราะในผลไม้มีน้ำตาลซึ่งช่วยให้สมองสามารถ จดจำสิ่งต่าง ๆ ได้เร็วและง่ายขึ้น ฉะนั้น หากสาว ๆ คนไหนจำเป็นต้องทำงานที่ใช้ความจำมาก ๆ ลองหันมากินผลไม้เป็นประจำทุกวัน จะช่วยได้มากที่เดียว



4. อุดมไปด้วยสารอาหารนานาชนิด เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า ผลไม้ทุกประเภทอุดมไปด้วยวิตามิน และ แร่ธาตุต่างๆ เช่น

• แคนตาลูป กล้วย มะม่วง มีแคโรทีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามมินเอ

• ส้ม องุ่น และผลไม้รสเปรี้ยวต่าง ๆ มีวิตามินซี ซึ่งช่วยให้เซลล์ร่างกายยึดติดกันและเพิ่มการดูดซึมธ าตุเหล็กจากอาหาร

• ผลไม้แห้งอย่างลูกเกดและลูกพรุน เป็นแหล่งที่ดีของธาตุเหล็กและโพแทสเซียม ซึ่งธาตุเหล็กจะไปรวมกับโปรตีนเป็นฮีโมโกลบิน ขนออกซิเจนจากปอดไปสู่เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย

ระวังติดเชื้อจากสระว่ายน้ำ

ระวังติดเชื้อจากสระว่ายน้ำ


คุณๆที่นิยมชมชอบการว่ายน้ำเป็นประจำ ทราบไหมว่าการว่ายน้ำ มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่างๆ

ได้เช่นกัน โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับอวัยวะเพศหรือช่องคลอดรองศาสตราจารย์ นายแพทย์ พงษ์ศักดิ์ ชัยศิลป์วัฒนา ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล อธิบายว่า การว่ายน้ำอาจจะทำให้มีอาการอักเสบของเยื่อบุปากทางช่องคลอด ซึ่งเป็นอาการที่พบหลังว่ายน้ำ โดยจะมีอาการแสบๆ ที่ปากช่องคลอด นอกจากนี้เมื่อปัสสาวะสัมผัสถูกบริเวณดังกล่าว จะมีผลให้บางคนมีอาการตกขาว


เมื่อตรวจภายในจะพบอาการอักเสบของเยื่อบุช่องคลอดอย่างชัดเจน

แต่ทั้งนี้เมื่อตรวจอีกครั้ง ไม่สามารถพบต้นเหตุของโรคได้ สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการแพ้คลอรีนในน้ำที่มีส่วนผสมในอัตราส่วนที่เข้มข้นเกินไป นอกจากนี้ โรคที่เกิดในปากช่องคลอดที่เคยพบ ซึ่งเป็นผลมาจากการว่ายน้ำในสระ ได้แก่ โรคพยาธิในช่องคลอดและโรคจากเชื้อรา เพราะเชื้อพยาธิและเชื้อราสามารถดำรงอยู่ในน้ำสะอาดที่มีคลอรีนเจือจางได้ โดยจะทำให้เกิดอาการอักเสยและตกขาว

รวมทั้งอาการคันบริเวณอวัยวะเพศและช่องคลอดสำหรับ เชื้อกามโรค อื่นๆ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส และ เริม นั้น ไม่พบชัดเจนว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากการว่ายน้ำธรรมดา

ฉะนั้นในขณะเล่นน้ำควรระวังไม่ให้น้ำเข้าทางปาก

เพราะเชื้อโรคบางชนิดอาจอยู่ในน้ำ เช่น โรคท้องร่วง และ ตับอักเสบส่วนสระว่ายน้ำบางแห่งที่ไม่ได้ใส่ใจดูแลรักษาความสะอาดเท่าที่ควร มีกระเบื้องแตกและชำรุด เมื่อว่ายน้ำไปกระทบกระเบื้องจนเกิดบาดแผล จะทำให้ ติดเชื้อแบคทีเรีย กลายเป็นแผลเรื้อรังคล้ายแผลจากเชื้อวัณโรคผิวหนัง ซึ่งการรักษาค่อนข้างอยาก แต่สามารถรักษาให้หายได้



วิธีการป้องกัน
- ปฏิบัติตามกฎระเบียบของสระว่ายน้ำ เช่น อาบน้ำทุกครั้งก่อนลงสระ
- นักว่ายน้ำควรตรวจร่างกายก่อนอย่างการเจาะเลือดตรวจภาวะภูมิคุ้มกันโรค
- เมื่อพบความผิดปกติหลังจากการว่ายน้ำควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจ และที่สำคัญ ควรงดการว่ายน้ำในช่วงที่พบความผิดปกติ
- ขณะว่ายน้ำระวังอย่าให้น้ำเข้าปาก

ว่ายน้ำครั้งต่อไปคุณคงมีวิธีการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องแล้วนะคะ แต่การดูแลเอาใจใส่เรื่องความสะอาดควรจะพอดีๆ เดี๋ยวมากเกินไปจะกลายเป็นความวิตกกังวลค่ะ เพราะจริงๆ แล้วร่างกายของเราก็มีภูมิต้านทานไว้ต่อกรกับเจ้าเชื้อโรคนานาชนิดอยู่แล้ว

10 ข้ออ้างยอดฮิต เลี่ยงออกกำลังกาย





1. ฉันแก่เกินไปที่จะออกกำลังกาย ทั้งที่การออกกำลังกายช่วยให้คุณอยู่ได้ยืนยงขึ้นก็ตาม เอาเป็นว่าไม่ต้องกลัวว่าแก่แล้วออกกำลังกายจะเป็นอันตราย ก่อนอื่นปรึกษาหมอประจำตัวเลยว่าสุขภาพคุณพร้อมแค่ไหน ควรระวังอะไร และควรเริ่มต้นอย่างไร

2. ฉันต้องการลดน้ำหนักตัวลงก่อน เพราะตอนนี้อ้วนเกินไป เป็นไปไม่ได้เลยถ้าคุณจะลดน้ำหนักโดยไม่ออกกำลังกายคู่ไปกับการลดอาหาร เหตุที่อยากลดน้ำหนักตัวลงก่อนส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าอายที่จะต้องไปอวดรูปร่างจ้ำม่ำตามยิมหรือฟิตเนสคลับ ทางแก้ไม่ยากคือหาเสื้อยืดตัวใหญ่ๆ มาใส่ช่วยอำพรางได้มาก แต่ที่สำคัญเวลาคุณเข้าฟิตเนสแต่ละคนเขาไม่มัวมาสนใจกันหรอก เพราะต่างคนต่างก็ขะมักเขม้นในการออกกำลังกายกันทั้งนั้น เอาเป็นว่าถ้าอายจริง ก็ซื้อวีซีดีการออกกำลังกายหรือเต้นแอโรบิคที่มีขายแพร่หลายมาฝึกเองที่บ้านแล้วกัน

3. ฉันผอมพอแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าคนที่คิดว่าตัวเองผอมหุ่นดีอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายอีกนั้นจะมีสุขภาพที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคมากยิ่งกว่าคนที่สูบบุหรี่แล้วขยันออกกำลังกายเสียด้วยซ้ำ ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสำหรับคนผอมคือเรื่องจำเป็นเท่าๆ กับคนอื่นๆ

4. ฉันไม่มีเวลาเลย ข้อนี้ฮิตจริงๆ ทางแก้มีอยู่ว่าต่อไปนี้คุณต้องให้ความสำคัญของการออกกำลังกายเทียบเท่าการนัดพบเจรจาธุรกิจ โดยใส่คิวการออกกำลังกายของคุณลงไปในตารางนัดงานของคุณด้วย หรืออย่างน้อยก็ควรจัดเวลาให้ตัวเองอย่างจริงจังที่บ้าน ก่อนหรือหลังมาทำงาน อย่าลืมว่าคนที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจจำเป็นต้องมีสุขภาพที่ฟิตอยู่เสมอ

5. ราคาแพงเกินไป คุณอาจจะเห็นว่าราคาค่าสมาชิกฟิตเนสคลับหรือสปอร์ตคลับต่างๆ นั้นจะแสนแพง เลยตัดสินใจไม่ได้สักที จริงๆ แล้วการออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายเลย เช่น การเดินออกกำลังกายเป็นวิธีที่ดีที่ต่อสุขภาพ คุณเริ่มเดินในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น เดินรอบบ้าน เดินรอบหมู่บ้านก็ได้ หรือจะกระโดดเชือกที่บ้านก็ได้ ราคาค่าเชือกคงไม่สู้ได้

6. ฉันเหนื่อยเกินไปที่จะออกกำลังกาย บ่อยครั้งที่คนไม่อยากออกกำลังกายเพราะว่าเหนื่อยจากงานมากพอแล้ว แต่อย่าลืมว่าการออกกำลังกายคือการคืนพลังชีวิตให้คุณได้สมบูรณ์แบบขึ้นต่างหาก

7. มันร้อนมากจนไม่อยากออกกำลังกาย เป็นข้ออ้างอย่างแท้จริงเพราะคุณสามารถออกกำลังกายตอนเช้าหรือเย็นๆ ที่อากาศยังไม่ร้อนก็ได้ หรือเลือกกีฬาในร่ม หรือกีฬาที่เย็นๆ ก็มี เช่น ว่ายน้ำ หรือเข้าฟิตเนสเพราะมีเครื่องปรับอากาศอยู่แล้วทุกที่

8. การออกกำลังกายทำให้ฉันเบื่อ การออกกำลังกายมีสารพัดรูปแบบ คุณอาจจะยังค้นไม่พบแบบที่คุณจะสนุกด้วย ต้องดูว่าตัวเองชอบออกกำลังกายคนเดียวหรือเป็นกลุ่ม ชอบแบบมีชีวิตชีวาก็มีให้เลือกมากมายสมัยนี้ เช่น body combat ขี่จักรยานประกอบเพลง แอโรบิค เต้นรำ หรือชอบการแข่งขัน กีฬาอย่างเทนนิส แบดมินตัน สค็วอช์ก็น่าจะเหมาะกับคุณบ้าง

9.ฉันเพิ่งไปดูดไขมันมา จึงไม่อยากออกกำลังกายให้เสียรูปทรง แม้ว่าการศัลยกรรมความงามจะช่วยคุณได้ในระดับหนึ่ง แต่อย่างลืมว่ารูปร่างที่สวยได้สัดส่วนจะต้องมีความฟิตและเฟิร์มซึ่งได้จากการออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เท่านั้น

10.ฉันบาดเจ็บ ถ้าคุณบาดเจ็บอาจจะจากการออกกำลังกายมาก่อนหรืออุบัติเหตุใดๆ ก็ตาม การออกกำลังกายกลับจะช่วยให้คุณฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และการทำงานของอวัยวะที่บาดเจ็บกลับคืนมาดีขึ้น เพียงแต่ว่าคุณต้องปรับโปรแกรมการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาวะตอนนั้นของร่างกายคุณมากกว่า
ทุกข้ออ้างล้วนมีที่มาและมีทางแก้ ลุกขึ้นมาออกกำลังกายกันดีกว่า แล้วคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นกับสุขภาพของคุณ...จริงๆ

เราควรจะออกกำลังกาย เวลาไหนดี ?

หลายคนสงสัยว่า เราควรจะออกกำลังกายเวลาไหนดี เช้า กลางวันหรือ เย็น หากเลือกเวลาที่เหมาะสม การเผาผลาญไขมันจะดีกว่า ในขณะที่ใช้เวลาออกกำลังกายเท่ากัน แต่ช่วงเวลาต่างกันเยอะ เวลาที่ดีที่สุดของการออกกำลังกายขึ้นอยู่กับว่าเป้าหมายของการออกกำลังกายนั้นเพื่ออะไร


หากต้องการลดน้ำหนัก




ควรออกกำลังกายตอนเช้า เพราะจะช่วยเผาผลาญแคลอรีดีกว่าตอนเย็น เพราะร่างกายจะนำเอาคาร์โบไฮเดรตจากอาหารมื้อเย็นเของเมื่อวานมาใช้เป็นพลังงาน กฏของการลดความอ้วนนั้นไม่ยากค่ะ “กินให้น้อยใช้ให้เยอะ” เท่านั้นเอง





หากต้องการกล้ามเนื้อที่แข็งแรง




ควรใช้เวลาในช่วงบ่าย เพราะจากผลการวิจัยเขาบอกมาแล้วว่า กล้ามเนื้อจะใช้งานได้ดีที่สุดตั้งแต่เวลาเที่ยงเป็นต้นไป
ออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลาย
ควรจะเป็นช่วงบ่ายๆค่ะ เพราะออกกำลังกายในช่วงบ่ายของวัน จะช่วยทำให้หลับสบายเวลากลางคืนทำให้ไม่เครียดด้วย


ออกกำลังกายเพื่อเลือกอุณหภูมิ




หลายคนอาจจะไม่ชอบอากาศร้อน ดังนั้นควรเลือกออกกำลังกายในตอนเช้าหรือตอนเย็นที่อากาศไม่ร้อนเท่านั้น ซึ่งในกรณีนี้ ควรออกกำลังกายนอกสถานที่ อาทิเช่นวิ่งขี่จักรยาน ว่ายน้ำ




ออกกำลังกายเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์




เวลาเช้าดีที่สุด เพราะอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์และการออกกำลัง ที่กระฉับกระเฉงจะช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น และออกซิเจนจะถูกนำไปใช้ได้อย่างมีประโยชน์สูงสุด



และอย่าลืมว่าอาหารนั้นมีผลต่อการออกกำลังกายเสมอ หากเลือกกินผิดประเภทจะทำให้การเผาผลาญพลังงานไม่ดีพอ และสะสมเป็นไขมัน แม้จะออกกำลังกายอยู่เป็นประจำก็ตามที ดังนั้นจึงเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างแท้จริง

7 วิธีทำให้รู้สึกหิวน้อยลง

จะลดน้ำหนักและอดอาหารจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่อย่ากังวลไป วันนี้มีวิธีดีๆ มาเล่าสู่ โดยเขาว่าถ้าต้องการควบคุมความอยากอาหารละก็ ลองเริ่มต้นด้วยการ "กินและกิน"


โดยกินให้บ่อย ประมาณ 4 ชั่วโมงครั้ง แต่ต้องกินแค่ผักหรือเนื้อสัตว์ ห้ามคาร์โบไฮเดรตหรือน้ำตาลเด็ดขาด เพราะจะทำให้หิวยิ่งกว่าเดิม
อย่างที่สอง คือต้อง "กินมื้อเช้า" จะได้ไม่หิวเป็นสองเท่าในมื้อเที่ยง
ข้อสาม ให้ "เคลื่อนไหวมากๆ" ร่างกายจะได้หลั่งสารเอ็นโดฟีนออกมาทำให้ไม่รู้สึกหิว
ข้อสี่ "กินโปรตีนเยอะๆ" เพราะจะช่วยให้อิ่มเร็วและอิ่มนาน
ข้อห้า "หลีกเลี่ยงงานปาร์ตี้" เพราะบางคนจะกินได้มากขึ้นเมื่ออยู่กับเพื่อน
ข้อหก "ซ่อนขนมขบเคี้ยว" เพราะกลิ่นของมันจะทำให้เราอยากอาหารมากขึ้น
ข้อสุดท้าย "พักผ่อนให้เพียงพอ" ไม่เช่นนั้นร่างกายจะอ่อนเพลียซึ่งจะส่งผลให้หิวมากกว่าปกติ

รสชาติอาหารที่ทาน สามารถทายนิสัยคุณได้

คนที่ชอบ อาหารรสจืด


คนแบบนี้มีนิสัย เป็นคนหนักเอาเบาสู้ ว่านอนสอนง่าย ใครว่าไงก็ว่าตาม พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ มีแค่ไหนใช้แค่นั้น ไม่ค่อยขวนขวายหรือกระตือรือร้นจนเกินตัว อยู่ง่าย กินง่าย
ส่วนลักษณะในการแต่งตัว ง่ายๆ สบายๆ แต่ข้อเสียก็ คือ มักเป็นคนขี้ใจน้อย ขี้สงสาร ใจอ่อน มักจะโดนคนอื่นหลอกอยู่บ่อยๆ











คนที่ชอบ อาหารรสหวาน





แหม… คุณชอบอาหารรสนี้ ก็แสดงว่า คุณเป็นคนใจบุญ สงสารคนอื่นเขาไปทั่ว อารมณ์ดี ร่าเริงสดใส จนบางครั้งดูเหมือนเกินๆ ไปนิด ชอบกีฬา และโปรดปรานเสียงเพลงเป็นที่สุด
ส่วนทางด้านความรัก จะเป็นคนที่รักง่ายหน่ายเร็ว เบื่อง่าย แต่ ถ้ารักใครก็รักจริง เป็นคนขี้หึงสุดๆ
ข้อเสีย คือ เป็นคนที่มีจิตใจโลเล เป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวเอง และก็มักจะเป็นคนที่ช่างฝัน









คนที่ชอบ อาหารรสเค็ม



เฮ้อ… คนที่ชอบอาหารรสนี้ จะเป็นคนมักได้ เป็นคนตระหนี่สุดๆ ส่วนเรื่องของการแต่งตัวก็ชอบแต่งตัวปอนๆ แต่จะเป็นคนที่ขยันทำงาน เก็บเงินเก่ง
ส่วนความรัก จะเป็นคนที่รักใครแล้วจะเก็บไว้ในใจ ไม่ค่อยแสดงออก เป็นคนที่รักความสงบ ไม่ชอบคบค้าสมาคมกับใครๆ นัก เพราะขี้เกียจปวดหัว






คนที่ชอบ อาหารรสเผ็ด




ออกจะเป็นคนที่ค่อนข้างเฉียบขาด อารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรง โกรธง่ายแต่หายเร็ว ปากร้ายใจดี เป็นคนที่มีความฉลาด ทันคน พูดจาตรงไปตรง มาคิดอย่างไรว่าอย่างนั้น

รวมถึงเป็นคนที่มีความมานะอดทน และมีความเพียรพยายามสูง และจะไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ ไม่ชอบอยู่ใต้บังคับใคร และถ้าลองได้รักใครแล้วทุ่มสุดตัวเหมือนกันนะ








คนที่ชอบ อาหารรสเปรี้ยว





คนชอบอาหารรสนี้ จะเป็นคนที่ชอบคบค้าสมาคมกับคนทุกระดับ ออกจะไปทางสังคมจัด เป็นคนที่ช่างพูดช่างเจรจา ชอบวางตัวเด่นจนบางครั้งเกินหน้าเกินตาคนอื่น นอกจากนี้ยังเป็นคนที่หาเงินเก่ง และก็ใช้เงินเก่งพอสมควร
ส่วนข้อเสีย คือ ชอบทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกัน ก็เลยทำอะไรไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จนัก และไม่ชอบทำงานที่ต้องออกแรงเยอะอีกด้วย

4 อาหารต้านภูมิแพ้

4 อาหารต้านภูมิแพ้ การรู้จักเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นวิธีที่ช่วยป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้ได้ดังนี้




1.กรดไขมันโฮเมก้า-3 ซึ่งพบมากในเมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ถั่วเหลือง ผักเบี้ย และผักใบสีเขียวเข็ม รสวมทั้งปลาที่อาศัยในแหล่งน้ำเย็น เช่นปลาแซลมอนและปลาแมคเคอเรล






2. วิตามินซี เป็นยาปฏิชีวนะธรรมชาติ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันป้องกันโรคหวัด ภูมิแพ้ ติดเชื้อง่าย อาหารที่มีวิตามีนซีสูง ได้แก่ ผักและผลไม้สด ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ฝรั่ง มะเขือเทศ สตรอเบอรี่








3.เควอร์ซิติน เป็นสารฟลาโวนอยด์ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติเป็นสารแอนติออกซิแดนซ์ที่มีคุณภาพสูง พบมากในหัวหอม แอ๊ปเปิ้ล ชาเขียว






4. แมกนีเซียม ช่วยในการรักษษหลอดลมอักเสบ และป้องกันโรคหืดได้ แหล่งอาหารที่สำคัญได้แก่ เต้าหู้ ถั่ว ผักใบเขียว ผักกวางตุ้ง สาหร่ายทะเล









ผู้ป่วยภูมิแพ้ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเกลือ ไขมัน และโปรตีน จากนมและไข่ รวมทั้งน้ำมันมัสตาร์ด เนยถั่ว น้ำมันเนย

อาหารที่ทานแล้วอารมณ์ดี

บทความ เกร็ดความรู้ เคล็ดลับ สุขภาพ เรื่อง อาหารที่ทานแล้วอารมณ์ดี วันนี้เรามี บทความ เกร็ดความรู้ เคล็ดลับ สุขภาพ เรื่อง อาหารที่ทานแล้วอารมณ์ดี มาฝากกันค่ะ เพื่อนๆ จะได้ปราศจาก โรค ภัยไข้เจ็บ แถมยังเป็นอาหารที่เราคาดไม่ถึงอีกด้วย เอาเป็นว่าไปอ่าน บทความ เกร็ดความรู้ เคล็ดลับ สุขภาพ

วันนี้เกร็ดความรู้มีอาหารที่ทานแล้วทำให้อารมณ์ดีมาฝากกัน....




ปลาแซลมอนและปลาแมคเคอเรล อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่มีการวิจัยยืนยันว่า หากขาดกรดไขมันชนิดนี้จะไปสู่อาการซึมเศร้าได้




น้ำมันคาโนลา (Canola Oil) คนที่มีอาการซึมเศร้ามักจะมีระดับวิตามินอีต่ำ ซึ่งน้ำมันคาโนลาสามารถทดแทนได้เพราะมีวิตามินอีสูงมาก อาจใช้น้ำมันคาโนลาปรุงอาหารแทนน้ำมันพืชก็ได้ แต่ไม่ควรทานเกินวันละ 2 ช้อนโต๊ะ เพราะจะทำให้อ้วนได้





ผักโขม ผักใบเขียวอย่างผักโขมมีโฟเลตสูง ซึ่งโฟเลตมีส่วนสำคัญในกระบวนการสร้างเซโรโทนิน ลองหันมากินสลัดผักโขมแทนสลัดผักกาดหอมทั่วไป เวลาอารมณ์ไม่ดีก็ช่วยได้




ถั่วชิกพี หรือถั่วหัวช้าง (Chick Pea) มีโฟเลตและวิตามินอีสูง นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์ ธาตุเหล็ก โปรตีนสูง แต่ไขมันต่ำ เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์



ไก่และไก่งวง มีวิตามินบี 6 สูง ซึ่งเป็นสารอาหารอีกชนิดที่มีส่วนสำคัญในการผลิตเซโรโทนิน นอกจากนี้ไก่และไก่งวงยังอุดมด้วยเซเลเนียม วิตามิน และแร่ธาตุสำคัญ

ปลาทูช่วยแก้โรคหัวใจ ??


ปลาทูเป็นอาหารยอดนิยมอีก 1 อย่าง ที่ใคร ๆ ก็คงเคยทานไม่ว่าจะทานกับ น้ำพริก หรือนำไป ทำน้ำพริก กับต้มยำก็อร่อย แต่ใครจะรู้บ้างว่าในตัวปลาทูนั้นก็มี สารโอเมก้า 3 อยู่ด้วย ศ.นพ.ปิติ พลังวชิรา ผู้อำนวยการ ศูนย์โรคผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า

โอเมก้า 3 มีอยู่ในน้ำมันปลา ซึ่งเป็นไขมันประเภทไม่อิ่มตัว มีประโยชน์ในเรื่อง ลดอัตราการตายจากโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดตีบ แล้วยังลดโคเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ รวมทั้งลดความหนืดของเลือด ลดการอักเสบ ทำให้ความข้นในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ
การรับประทานน้ำมันปลาจะปรับระดับเลือดในร่างกายให้อยู่ในภาวะปกติ



ไขมันปลาประกอบด้วยสาร
• อีพีเอ และ
• ดีเอชเอ

สารกลุ่มนี้จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งมีอยู่ในปลาทะเลน้ำลึก ในเขตหนาว เช่น ปลาไซม่อน ปลาเม็คเคเรล ส่วนในเมืองไทยปลาเหล่านี้มีราคาสูง จึงแนะนำให้รับประทานปลาทู และปลากระพง ทดแทน เพราะในปลาทูจะมีสารโอเมก้า 3 ค่อนข้างมาก ในเนื้อปลาทู 100 กรัม จะมีสารโอเมก้า 3 ประมาณ 2-3 กรัม ปกติในหนึ่งวันร่างกายต้องการโอเมก้า 3 ประมาณวันละ 3 กรัมต่อวัน

แต่การรับประทานอาหารเสริมน้ำมันปลา ซึ่งมีโอเมก้า 3 นั้น ต้องได้รับการตรวจเช็คจากแพทย์ก่อนว่าร่างกายขาดโอเมก้า 3 หรือไม่ เพราะหากร่างกายได้รับสารโอเมก้า 3 เพียงพอแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อน้ำมันปลามารับประทาน

สดใสยามเช้า (สำหรับคนนอนดึก)


สำหรับคนที่ต้องนอนดึกอยู่เป็นประจำ

หรือคนที่ต้องนอนดึก ในโอกาสพิเศษต่างๆมาดูวิธีการทำให้ร่างกายสดชื่น สดใส หลังจากต้องตรากตรำอดหลับอดนอนจากการทำภารกิจมาตลอดทั้งคืน


น้ำมะนาว เวลาที่บางคนไปตามสถานบันเทิง เพื่อหาความรู้แปลกๆ ใหม่ๆ ใส่ตัว จากคนที่]เงียบขรึมไม่ค่อยพูด ค่อยจา ก็ยังพาลลืมเนื้อลืมตัวไปกับความมันส์ชนิดที่เรียกว่าสุดเหวี่ยง ลืมคิดไปว่าตัวเป็นนักร้องไปซะเอง พอตื่นเช้าขึ้นมาเท่านั้นแหละ อาการเจ็บคอก็จะถามหา ขอแนะนำให้หาน้ำมะนาวจะมีกรดมะนาว หรือ กรดซิกตริก แถมมีน้ำมันหอมระเหยอยู่เล็กน้อยพอได้กลิ่นหอมชวนดื่มจากเปลือกที่โดนคั้น แถมยังมีวิตา มิน C ที่นอกจากจะช่วยขับเสมหะแก้อาการเจ็บคอ ยังช่วยทำให้ร่างกายสดชื่น รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย

น้ำขิง สำหรับคนที่รู้สึกพะอืดพะอม คลื่นไส้ อยากจะอาเจียน เป็นอาการของคนเมาค้างนั่นเองลองหันมา หาน้ำขิงร้อนๆ ดื่มดีกว่า เพราะขิงจัดเป็นสมุนไพรที่มีรสชาติและกลิ่นพิเศษ ขิงมีสารเคมีชนิดหนึ่งเป็น เป็นสารเคมีประเภทน้ำมันหอมระเหย ให้ทั้งรสและกลิ่น สารตัวนี้มีชื่อเรียกเป็นทางการว่าจินเจอรอล (gingerol) จัดอยู่ในกลุ่มแอลกอฮลล์ แต่ไม่ทำให้เรารู้สึกมึนเมาได้เป็นอันขาด การทำน้ำขิงให้อร่อยนั้น ให้บุบหัวขิงที่ยังไม่แก่จัดจนเกินไป ต้มด้วยน้ำร้อนพอเดือด หากต้มนานเกินไปขิงจะเสียรสเสียกลิ่นไปได้ มาก จะดื่มเปล่าๆ หรือเติมน้ำตาลให้รสชาติหวานน่ากินหน่อยก็ได้

น้ำผัก น้ำผลไม้ ดื่มง่ายแถมยังอุดมไปด้วยวิตามินหลากหลายชนิด ในน้ำผัก น้ำผลไม้ มีส่วนผสมของน้ำตาล ซึ่งเป็น น้ำตาลโดยธรรมชาติของผลไม้หรือผักเอง รวมไปถึงน้ำตาลที่มีการเติมลงไป มีการแต่งกลิ่นและสีให้ดูมี ชีวิตชีวาของผักและผลไม้เข้าไปด้วย สามารถให้พลังงานแก่ร่างกายช่วยให้เราหายเหนื่อย หายเพลีย ทำ ให้ร่างกายสดชื่น ซ้ำยังมีแร่ธาตุ เช่น โซเดียม โปแตสเซียม สังกะสี ที่จะเข้าไปทดแทนในส่วนที่เสียไป ไม่เพียงเท่านั้นยังมีวิตามินที่สำคัญอีกหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามิน C และวิตามิน A และโฟลิคแอซิด ที่มีอยู่ในผลไม้และผัก

น้ำหวานๆ คนที่นอนดึกส่วนใหญ่จะตื่นขึ้นมาแล้วมีอาการปวดหัว มึนศีรษะ รู้สึกเกิดอาการเครียดทางประสาท นั่นก็เพราะว่าร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ อาหารที่มีสามารอาหารของแป้งและน้ำตาลสามารถช่วยได้ โดย เฉพาะน้ำตาลจะดูดซึมได้ดีและง่ายกว่า แต่ถ้าจะเดินเข้าครัวไปหยิบน้ำตาลมานั่งกินเล่นก็ดูจะแปลกอยู่ เพียงน้ำหวานสักแก้วก็สามารถช่วยให้จิตใจสงบขึ้นได้ คลายอาการเครียด xxxง ได้แล้วค่ะ

ขอขอบคุณเนื้อหาดีดี โดย:ผู้หญิง